เที่ยวเกียวโต สวยทุกฤดู ชมใบไม้แดง หิมะขาว และทริปโอซาก้าแบบสบายๆ

คุณกำลังวางแผนไปเที่ยวญี่ปุ่นอยู่ใช่ไหม? บอกเลยว่า เกียวโต คือเมืองที่ไม่ควรพลาด!
ไม่ว่าจะไปช่วงไหน ที่เที่ยวเกียวโต ก็มีเสน่ห์ไม่ซ้ำกัน ตั้งแต่ ใบไม้เปลี่ยนสีแดงสดใส ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปชม ไปจนถึงบรรยากาศสงบใน ฤดูหนาวของเกียวโต ที่บางครั้งมีหิมะโปรยลงมา
เมืองนี้เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่รอให้คุณค้นพบอีกมากมาย และถ้าคุณอยากจัดเต็มให้คุ้มค่า เราจะพาไปดู วิธีวางแผนเที่ยวเกียวโต – โอซาก้า ให้ครบทั้ง 2 เมืองในทริปเดียว
เที่ยวเกียวโตเดือนไหนดี มีที่เที่ยวที่ไหนบ้าง ?
ที่เที่ยวเกียวโต ใบไม้เปลี่ยนสี (กันยายน - พฤศจิกายน)
ช่วงฤดูใบไม้ร่วงของทุกปี ที่เที่ยวเกียวโต จะกลายมาเป็นจุดหมายยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก เพราะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับการชมใบไม้เปลี่ยนสีทั่วทั้งเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อความงดงามของธรรมชาติบวกกับความสงบของวัดวาอารามโบราณ ทำให้บรรยากาศยิ่งน่าประทับใจไปอีกหลายเท่า เรามีพิกัดยอดนิยมในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีมากฝากค่ะ

- วัดไดโกจิ (Daigo-ji Temple)
วัดเก่าแก่ที่เป็นมรดกโลกที่งดงามและเต็มไปด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์ จุดชมใบไม้แดงที่ไม่ควรพลาดคือบริเวณ อาคารเบนเทนโดะ ที่อยู่ติดกับสระน้ำด้านหลังวัด เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วง พื้นที่โดยรอบจะถูกแต่งแต้มด้วยสีสันของใบไม้เปลี่ยนสี สร้างภาพสะท้อนที่สวยงามบนผิวน้ำ นอกจากนี้ยังมี อาคารซันโบอิน บริเวณทางเข้าวัด ซึ่งล้อมรอบด้วยสวนสไตล์โมโมยามะที่งดงามไม่แพ้กัน
- วัดโทฟุคุจิ (Tofuku-ji Temple) วัดเซนที่ขึ้นชื่อเรื่องความงดงามของใบไม้เปลี่ยนสี พื้นที่วัดล้อมรอบด้วยต้นเมเปิ้ลกว่า 2,000 ต้น เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้ทั้งหมดจะเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน สร้างทัศนียภาพที่น่าทึ่งไปทั่วบริเวณ นอกจากความงามของธรรมชาติแล้ว ภายในวัดยังมีสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่น่าสนใจ เช่น ประตูซันมอน ที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบเซ็นโบราณ, ห้องโถงหลักฮอนโดะ, และอาคารอื่นๆ ที่สร้างมาตั้งแต่สมัยมูโรมาจิ ส่วนจุดชมวิวและถ่ายรูปยอดฮิตที่ห้ามพลาดคือ บริเวณรอบๆ สะพานสึเทนเคียว ซึ่งเป็นจุดที่จะได้เห็นวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามที่สุดของวัด
- วัดคิโยมิซุ (Kiyomizu-dera Temple)
หนึ่งในที่เที่ยวเกียวโต ใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ วัดคิโยมิซุ หรือที่คนไทยเรียกกันว่า วัดน้ำใส วัดแห่งนี้เป็นมรดกโลกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนโดย UNESCO นอกจากการไหว้พระขอพรแล้ว ที่วัดยังมีไฮไลท์คือ น้ำตกสามสาย ที่เชื่อกันว่าการดื่มน้ำจากสายต่างๆ จะช่วยให้คำอธิษฐานเป็นจริง จุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่พลาดไม่ได้คือบริเวณระเบียงไม้ขนาดใหญ่ของวัด ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองเกียวโตที่เต็มไปด้วยสีสันของใบไม้ได้แบบเต็มตา ช่วงกลางคืนจะมีการเปิดไฟ Light up ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ถึง 21.00 น. ทำให้บรรยากาศยิ่งโรแมนติกเข้าไปอีก
- วัดเบียวโดอิน (Byodo-in) ที่เที่ยวเกียวโตที่ไม่ควรพลาด โดยเฉพาะ วิหารฟินิกซ์ (Phoenix Hall) ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 1,000 ปี และได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก ช่วงฤดูใบไม้ร่วงบรรยากาศรอบๆ จะเต็มไปด้วยสีสันของใบไม้เปลี่ยนสีที่ล้อมรอบวิหาร ทำให้ตัววิหารดูสวยงามและน่าประทับใจสุดๆ ในยามค่ำคืนจะมีการเปิดไฟ Light up ที่ตัววิหาร ซึ่งแสงไฟจะส่องสะท้อนกับผืนน้ำด้านหน้า สร้างภาพที่สวยงามและโรแมนติกมาก
ที่เที่ยวเกียวโต หน้าหนาว (ธันวาคม - กุมภาพันธ์)
แม้จะเป็นช่วงที่อุณหภูมิลดลงและอากาศหนาวเย็นแต่ก็มีเสน่ห์ที่ไม่แพ้ฤดูอื่นๆ เลยค่ะ โดยเฉพาะบรรยากาศที่เงียบสงบและงดงามราวกับภาพวาด ซึ่งบางครั้งก็มีหิมะโปรยลงมาปกคลุมวัดวาอารามและสวนญี่ปุ่น ทำให้ทิวทัศน์เปลี่ยนไปอย่างน่ามหัศจรรย์ ใครที่อยากสัมผัสความงามที่แตกต่าง การมาเที่ยวเกียวโตในฤดูหนาวจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยละค่ะ

- ป่าไผ่อาราชิยามะ (Arashiyama Bamboo Grove)
แม้จะโด่งดังในทุกฤดู แต่ในช่วงหน้าหนาว ป่าไผ่แห่งนี้จะให้บรรยากาศที่แตกต่างออกไป ความเงียบสงบและแสงที่ลอดผ่านแนวไม้ไผ่ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในโลกอีกใบ นอกจากนี้ในเดือนธันวาคมยังมีเทศกาล Arashiyama Hanatouro ซึ่งจะมีการประดับไฟตามแนวป่าไผ่และบริเวณโดยรอบ ทำให้ยามค่ำคืนดูสวยงามและมีมนต์ขลังมาก
- ศาลเจ้าคิฟุเนะ (Kifune Shrine) เป็นศาลเจ้าที่อยู่ทางตอนเหนือของเกียวโต บันไดหินที่ประดับด้วยโคมไฟสีแดงจะถูกปกคลุมด้วยหิมะ สร้างบรรยากาศที่สงบและสวยงามดุจภาพวาด โดยเฉพาะในช่วงที่มีหิมะตกหนัก ทางศาลเจ้าจะมีการเปิดไฟประดับยามค่ำคืนเป็นพิเศษ ทำให้บรรยากาศยิ่งโรแมนติกขึ้นไปอีก
- วัดคินคาคุจิ (Kinkaku-ji Temple) หรือที่รู้จักกันในชื่อ "วัดทอง" ที่มีความสวยงามอยู่แล้ว เมื่อมีหิมะตกปกคลุมหลังคาวัดและบริเวณโดยรอบ จะยิ่งทำให้ภาพของวัดทองดูงดงามและน่าจดจำมากยิ่งขึ้น เงาของเจดีย์สีทองที่สะท้อนในสระน้ำท่ามกลางเกล็ดหิมะเป็นภาพที่หาชมได้ยากและสวยงามที่สุดเลยล่ะค่ะ
- ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ (Fushimi Inari Taisha) ช่วงหน้าหนาวบอกเลยว่ามีความพิเศษไม่แพ้ฤดูอื่นๆ บรรยากาศโดยรวมจะเงียบสงบและโรแมนติกกว่าช่วงเวลาปกติ เพราะใบไม้เปลี่ยนสีได้ร่วงไปหมดแล้ว และถ้าโชคดีได้เจอวันที่มีหิมะตกปกคลุมบนพื้นและหลังคาของเสาโทริอิสีแดง คุณก็จะได้เห็นทิวทัศน์ที่สวยงามราวกับภาพวาด อากาศที่หนาวเย็นทำให้การเดินขึ้นไปตามทางเดินภูเขาไม่เหนื่อยจนเกินไปด้วยนะคะ
ที่เที่ยวเกียวโต ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม - พฤษภาคม)
ในช่วงฤดูใบไม้ผลิเกียวโตจะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง โดยเฉพาะเมื่อดอกซากุระเริ่มผลิบาน ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมไปจนถึงต้นเดือนเมษายน ทำให้เมืองเก่าแก่แห่งนี้เต็มไปด้วยสีชมพูละมุนตา นับเป็นช่วงเวลาที่สวยงามและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุด นอกจากซากุระแล้ว อากาศที่เย็นสบายก็เหมาะกับการเดินเล่นชมสวนและวัดต่างๆ อีกด้วยค่ะ

- สวนมารุยามะ (Maruyama Park) เป็นสวนสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดในเกียวโตและเป็นที่นิยมสำหรับการชมซากุระ โดยเฉพาะต้นซากุระย้อยขนาดใหญ่ที่เป็นสัญลักษณ์ของสวนนี้ ช่วงกลางคืนจะมีการเปิดไฟประดับ ทำให้ผู้คนนิยมมาปูเสื่อปิกนิกใต้ต้นซากุระเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลฮานามิ (Hanami) หรือการชมดอกไม้นั่นเองค่ะ
- ทางเดินนักปราชญ์ (Philosopher’s Path) เป็นทางเดินเท้าเล็กๆ ที่เลียบคลองมาจากทะเลสาบบิวะ ชื่อของถนนสายนี้ได้มาจากนักปราชญ์ชื่อดังอย่าง นิชิดะ คิทาโร่ (Nishida Kitaro) ที่ใช้เส้นทางนี้เดินเล่นเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ถนนสายนี้จะกลายเป็นจุดหมายยอดฮิต เพราะต้นซากุระกว่า 500 ต้นที่ปลูกเรียงรายสองข้างทางจะพากันออกดอกสีชมพูอ่อนๆ สวยงามมาก เส้นทางนี้เริ่มต้นจากบริเวณหน้าวัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple) ไปจนถึงสุดทางที่วัดนันเซ็นจิ (Nanzenji Temple) มีความยาวประมาณ 2 กิโลเมตร
- สะพานโทเง็ตสึเคียว (Togetsukyo Bridge) ตั้งอยู่ในย่านอาราชิยามะ เป็นหนึ่งในจุดชมดอกซากุระที่สวยงามที่สุด และเป็นที่เที่ยวเกียวโตยอดนิยมในฤดูใบไม้ผลิอีกด้วย ช่วงที่ซากุระบาน บริเวณรอบสะพานจะเต็มไปด้วยดอกซากุระสีชมพูอ่อนๆ ตัดกับสีเขียวของภูเขาและผืนน้ำของแม่น้ำคัตสึระ (Katsura River) ได้อย่างลงตัว คุณสามารถเดินเล่นบนสะพานเพื่อชมวิว หรือจะเลือกนั่งเรือชมซากุระจากอีกมุมมองก็ได้บรรยากาศที่สวยงามไม่แพ้กัน
- นั่งรถไฟสายโรแมนติกซากาโน่ (Sagano Romantic Train) ช่วงฤดูใบไม้ผลิเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเลยค่ะ รถไฟสายโรแมนติกซากาโน่จะวิ่งเลียบแม่น้ำและหุบเขา ทำให้คุณได้ชมวิวความงามของธรรมชาติแบบเต็มตา โดยเฉพาะช่วงที่ดอกซากุระบานสะพรั่งตลอดสองข้างทาง รถไฟจะวิ่งด้วยความเร็วที่ไม่มากนักและบางครั้งจะมีการชะลอตัวให้ผู้โดยสารได้เพลิดเพลินและถ่ายรูป ทำให้คุณได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศที่สวยงามของฤดูใบไม้ผลิได้อย่างเต็มที่

ที่เที่ยวเกียวโต ฤดูร้อน (มิถุนายน - สิงหาคม)
แม้ว่าอากาศจะร้อนและมีความชื้นสูง แต่ในช่วงฤดูร้อนก็มีเสน่ห์ไม่แพ้ฤดูอื่นๆ โดยเฉพาะเทศกาลสำคัญที่จัดขึ้นในช่วงนี้ และบรรยากาศที่เขียวชอุ่มของธรรมชาติที่ให้ความรู้สึกสดชื่น นอกจากนี้ยังมีสถานที่ที่ร่มรื่นและเย็นสบาย เหมาะสำหรับการเดินเล่นและพักผ่อนเพื่อหลีกหนีความร้อนอีกด้วยค่ะ
แม่น้ำคาโมะ (Kamo River) แม่น้ำสายสำคัญที่ไหลผ่านใจกลางเมืองเกียวโต เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน ที่ริมแม่น้ำจะเต็มไปด้วยผู้คนที่มาเดินเล่น, ปั่นจักรยาน, หรือมานั่งพักผ่อนชมวิว นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารและคาเฟ่ที่เปิดระเบียงริมแม่น้ำในช่วงหน้าร้อน ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับอาหารไปพร้อมๆ กับบรรยากาศสบายๆ ริมน้ำได้อีกด้วย
เทศกาลกิออน (Gion Matsuri) เป็นหนึ่งในเทศกาลที่ยิ่งใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น จัดขึ้นตลอดเดือนกรกฎาคมในย่านกิออนของเกียวโต โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์ที่สามของเดือน จะมีการแห่ขบวนรถลากขนาดใหญ่ที่เรียกว่า "ยามะโฮโกะ" ซึ่งตกแต่งอย่างสวยงามและตระการตา เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างประเพณีโบราณกับความมีชีวิตชีวาของผู้คน เหมาะสำหรับคนที่อยากสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างแท้จริง
ปราสาทนิโจ (Nijo Castle) อีกทางเลือกที่เหมาะกับการมาเที่ยวเกียวโตช่วงหน้าร้อน ปราสาทมรดกโลกแห่งนี้มี พระตำหนักนิโนะมารุ (Ninomaru Palace) อาคารไม้โบราณที่เย็นสบายตามธรรมชาติ ภายในตกแต่งด้วย จิตรกรรมฝาผนังงดงาม และมีจุดไฮไลต์คือ พื้นไม้ไนติงเกล (Nightingale Floors) ที่ส่งเสียงเตือนภัยทุกครั้งเมื่อมีคนเดิน ช่วยให้คุณได้สัมผัสทั้งความร่มรื่นและประวัติศาสตร์ในคราวเดียว นอกจากนี้ รอบปราสาทยังมีสวนญี่ปุ่นร่มรื่นให้เดินเล่นคลายร้อนอีกด้วย
ตลาดนิชิกิ (Nishiki Market) ที่เที่ยวเกียวโตหน้าร้อน เดินชิลหลบแดดใน “ครัวแห่งเกียวโต” หากอากาศร้อนจนไม่อยากอยู่กลางแจ้ง ตลาดนิชิกิ คือที่เที่ยวเกียวโตที่เหมาะที่สุดในฤดูร้อน ตลาดเก่าแก่แห่งนี้ได้รับฉายาว่า “ครัวแห่งเกียวโต” เพราะเป็นแหล่งรวมอาหารพื้นเมืองและของกินเล่นมากมาย ภายใต้หลังคาคลุมตลอดแนว คุณสามารถเดินชิมอาหารได้อย่างเพลิดเพลินโดยไม่ต้องกลัวแดด ไม่ว่าจะเป็นซูชิสด ขนมญี่ปุ่นหน้าตาน่ารัก หรือของเย็นคลายร้อนอย่าง น้ำแข็งไส (Kakigori) และ ชาเขียวเย็น การได้เดินเล่นท่ามกลางบรรยากาศคึกคักในร่มเช่นนี้ คืออีกหนึ่งวิธีเที่ยวเกียวโตหน้าร้อนแบบสบาย ๆ และอร่อยไปพร้อมกัน
เส้นทาง “เที่ยวเกียวโต โอซาก้า” เที่ยว 2 เมืองคู่สุดฮิต
สำหรับใครที่อยากเที่ยวญี่ปุ่นให้คุ้มค่า การจับคู่เที่ยวเมืองใหญ่อย่างเกียวโตและโอซาก้าถือเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมเลยค่ะ เพราะสองเมืองนี้ตั้งอยู่ใกล้กันมาก ใช้เวลาเดินทางด้วยรถไฟเพียง 30 นาที ทำให้คุณสามารถเดินทางไปมาระหว่างสองเมืองนี้ได้อย่างสะดวกสบาย และได้สัมผัสกับเสน่ห์ที่แตกต่างกันได้อย่างเต็มที่ ทั้งความสงบและความสวยงามแบบดั้งเดิมของ ที่เที่ยวเกียวโต และความทันสมัยสุดคึกคักของโอซาก้า
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น เรามีตัวอย่างแพลนเที่ยว 5 วัน 4 คืน มาให้ด้วยค่ะ
แพลนเที่ยวเกียวโต โอซาก้า 5 วัน 4 คืน
วันที่ 1 - 2 : เที่ยวเกียวโต
สนามบินนานาชาติคันไซ - เกียวโต - ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ - พิธีชงชาญี่ปุ่น -วัดคิโยมิสึ - ถนนสายกาน้ำชา - อิออน มอลล์
วันที่ 3 - 4 : ต่อโอซาก้า
วัดโทไดจิ - ช้อปปิ้งดิวตี้ฟรี - ย่านชินไซบาชิ - สวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เต็มวัน!
วันที่ 5
ปราสาทโอซาก้า - ตลาดปลาคุโรมง - ริงกุ เอาท์เล็ต - สนามบินคันไซ - สนามบินสุวรรณภูมิ
สิ่งที่ห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวเกียวโต
- สวมชุดกิโมโนเดินเล่นในเมือง การได้สวมชุดกิโมโนหรือชุดยูกาตะแล้วเดินเที่ยวในย่านเมืองเก่าอย่างกิออนหรือป่าไผ่อาราชิยามะ จะทำให้ได้สัมผัสบรรยากาศแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมอย่างแท้จริง และได้รูปสวยๆ กลับบ้านแน่นอนค่ะ
- พักในเรียวกังแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม เปิดประสบการณ์พักค้างคืนในเรียวกัง หรือโรงแรมสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม ซึ่งภายในห้องพักจะเป็นเสื่อทาทามิ (Tatami) และมีฟูกนอน (Futon) ให้ได้สัมผัสวิถีชีวิตแบบญี่ปุ่น และบางแห่งก็มีออนเซ็นให้ได้แช่ตัวเพื่อผ่อนคลายอีกด้วย
- ชิมอาหารขึ้นชื่อ เกียวโตมีอาหารอร่อยมากมายที่ต้องลอง เช่น เต้าหู้ยุโดฟุ (Yudofu) หรือเต้าหู้น้ำซุปที่ขึ้นชื่อเรื่องความนุ่มละมุนลิ้น และ ไคเซกิ (Kaiseki) หรือชุดอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่ประณีตงดงาม
- ร่วมพิธีชงชา การเข้าร่วมพิธีชงชา (Tea Ceremony) เป็นโอกาสดีที่คุณจะได้เรียนรู้วัฒนธรรมเก่าแก่ของญี่ปุ่น และได้สัมผัสถึงความสงบในพิธีที่เรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยความหมาย
- นั่งรถไฟสายโรแมนติกซากาโน่ (Sagano Romantic Train) สำหรับคนที่ไปช่วงใบไม้เปลี่ยนสีหรือฤดูร้อน การได้นั่งรถไฟสายนี้เพื่อชมทัศนียภาพสองข้างทางที่สวยงามของป่าและแม่น้ำก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ห้ามพลาดค่ะ
เกียวโต เป็นเมืองที่มีเสน่ห์ไม่รู้จบและเหมาะแก่การเที่ยวในทุกฤดูเลยค่ะ ไม่ว่าคุณจะหลงใหลในความงามของใบไม้เปลี่ยนสี หลงรักบรรยากาศหิมะขาวโพลน หรือชื่นชอบความสดใสของดอกซากุระ ที่เที่ยวเกียวโต ก็พร้อมมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้คุณได้เสมอ
ใครสนใจ ทัวร์เกียวโต โอซาก้า ติดต่อสอบถามยักษ์ทัวร์ได้เลยนะคะ
จองทัวร์กับยักษ์ทัวร์วันนี้ พร้อมโปรพิเศษ แอดมาเลยที่ Line @yaktour
Line Official Account | @yaktour 👉 https://lin.ee/NLwXWc1
ไม่พลาดเรื่องเที่ยว และดีลเด็ด ติดตามยักษ์ทัวร์ได้ทุกช่องทาง
Facebook | yaktourgroup 👉 https://shorturl.at/ov7AJ
Instagram | @yaktour_th 👉 https://shorturl.at/2uS64
TikTok | @yaktourgroup 👉 https://shorturl.at/DMF90
Youtube | @yaktour 👉 https://shorturl.at/VFWok
