เที่ยวญี่ปุ่น 2026 เช็กอินที่เที่ยวมาแรง พร้อมอับเดตล่าสุด มาตรการท่องเที่ยวใหม่ของญี่ปุ่น

เที่ยวญี่ปุ่น 2026 ปีแห่งการท่องเที่ยวสุดคึกคักที่นักเดินทางทั่วโลกตั้งตารอ!
ญี่ปุ่นยังคงครองใจด้วยเสน่ห์ครบทุกฤดู ไม่ว่าจะเป็นซากุระ หิมะ หรือใบไม้เปลี่ยนสีสุดโรแมนติก หากใครกำลังสงสัยว่า เที่ยวญี่ปุ่นเดือนไหนดี บทความนี้มีคำตอบครบ พร้อมแนะนำแลนด์มาร์กใหม่ จุดเช็กอินยอดฮิตทั่วประเทศ รวมถึงมาตรการใหม่ ๆ ที่นักท่องเที่ยวต้องเตรียมตัว ไม่ว่าจะเดินทางเองหรือจองกับ ทัวร์ญี่ปุ่น 2026 ก็วางแผนได้ง่าย ปีนี้มีทั้งสถานที่ใหม่ กิจกรรมเด็ด และเทศกาลใหญ่รอให้คุณไปสัมผัสด้วยตัวเอง ใครพร้อมแล้วตามไปดูกันเลย!
เที่ยวญี่ปุ่น 2026 เดือนไหนดี ?
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่สวยงามตลอดทั้งปี แต่ละช่วงเวลามีกิจกรรมและบรรยากาศเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน ไม่ว่าคุณจะเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง หรือไปเที่ยวกับทัวร์ก็เลือกช่วงเวลาที่เหมาะกับสไตล์ของคุณได้เลย
ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม)
ฤดูแห่งความสดใสและการเริ่มต้นใหม่ อากาศเย็นสบาย อุณหภูมิเฉลี่ย 10–20°C เหมาะกับการเดินเล่นกลางแจ้ง ไฮไลต์คือ เทศกาลชมดอกซากุระ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะที่ โตเกียว เกียวโต โอซาก้า และฟุกุโอกะ นอกจากนี้ยังมีสวนดอกไม้สวยๆ เช่น Hitachi Seaside Park และ Fuji Shibazakura Festival ใครอยากได้ภาพสวย ๆ ต้องรีบจองตั๋วล่วงหน้า เพราะเป็นช่วงพีคของการ เที่ยวญี่ปุ่น 2026
ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม)
อากาศอบอุ่น อุณหภูมิเฉลี่ย 25 – 35°C เหมาะกับสายกิจกรรมและผู้ที่อยากสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นเต็มที่ มีเทศกาลใหญ่แทบทุกเมือง เช่น Hanabi Matsuri (เทศกาลดอกไม้ไฟ), Gion Matsuri ที่เกียวโต และ Nebuta Matsuri ที่อาโอโมริ หากอยากพักผ่อนริมทะเล แนะนำ โอกินาว่า (Okinawa) เกาะสวรรค์น้ำใส เหมาะกับดำน้ำและเล่นน้ำทะเล
ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน)
ฤดูที่โรแมนติกที่สุดของญี่ปุ่น เพราะใบไม้เปลี่ยนสีแดง เหลือง และส้ม อุณหภูมิเฉลี่ย 10–20°C เหมาะกับคนชอบถ่ายรูปและอากาศเย็นสบาย จุดชมวิวแนะนำได้แก่ เกียวโต นารา นิกโก้ และ ทะเลสาบทั้ง 5 รอบภูเขาไฟฟูจิ (Fuji Five Lakes) นอกจากนี้ยังมีเทศกาลอาหารท้องถิ่นและผลไม้ตามฤดูกาล ใครชอบบรรยากาศฟิน ๆ สามารถจอง ทัวร์ญี่ปุ่น 2026 ช่วงฤดูใบไม้ร่วงได้เลย
ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์)
ฤดูแห่งความโรแมนติกและหิมะขาวโพลน อุณหภูมิเฉลี่ยในเมืองหลัก 2–10°C ส่วนฮอกไกโดอาจต่ำถึง -5 ถึง -10°C เหมาะกับผู้ที่อยากเล่นสกีหรือชมวิวเมืองหิมะ สถานที่ยอดนิยม เช่น ซัปโปโร (Sapporo), นิเซโกะ (Niseko), และ นากาโนะ (Nagano) นอกจากนี้ยังมีเทศกาลหิมะสุดยิ่งใหญ่ เช่น Sapporo Snow Festival และออนเซ็นท่ามกลางหิมะ เที่ยวญี่ปุ่น 2026 แบบหนาวจับใจต้องมาช่วงฤดูหนาว
20 ที่เที่ยวญี่ปุ่น อับเดตใหม่ล่าสุด
ภูมิภาคคันโต (Kanto)
1. โตเกียวสกายทรี ทาวน์ (Tokyo Skytree Town) – โตเกียว
แลนด์มาร์กสูงที่สุดในโตเกียว ชมวิวเมืองแบบพาโนรามาและมองเห็นภูเขาไฟฟูจิในวันที่อากาศดี เหมาะกับการเที่ยวแบบวันเดียวจบ มีอควาเรียมให้เด็กๆ และผู้ใหญ่เพลิดเพลินด้วยกัน ใครมา เที่ยวญี่ปุ่น 2026 ต้องไม่พลาดถ่ายรูปมุมสูงอลังการ โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวที่มีไฟประดับสุดตระการตา

2. กระเช้าโยโกฮามะ แอร์แคบิน (Yokohama Air Cabin) – คานางาวะ
กระเช้าลอยฟ้าแห่งแรกของโยโกฮามะ ให้มุมมองเหนืออ่าวและเมืองสุดโรแมนติก เหมาะสำหรับทริปวันเดียวสำหรับคนเที่ยวเอง เดินทางสะดวกจากใจกลางเมือง แนะนำมาช่วงเย็นเพื่อชมพระอาทิตย์ตกและแสงสีเมือง ช่วงเวลาที่เหมาะคือ มีนาคม – พฤษภาคม รับรองวิวสวยแน่นอน

3. หุบเขาโอวาคุดานิ (Owakudani) – คานากาวะ
หุบเขาไฟในฮาโกเน่ที่ยังคุกรุ่น มีไอน้ำพวยพุ่งและกลิ่นกำมะถันอ่อนๆ ไฮไลต์คือ ไข่ดำโอวาคุดานิ ที่เชื่อว่ากินแล้วอายุยืน เป็นจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิสุดอลังการ แนะนำเที่ยวช่วงมีนาคม – พฤศจิกายน อากาศเย็นสบาย เดินเล่นแบบชิลๆ

4. Shibuya Sakura Stage – โตเกียว
แลนด์มาร์กใหม่ใจกลางชิบูย่า ศูนย์การค้าและคอมเพล็กซ์ที่มีพื้นที่สีเขียว คาเฟ่ และร้านค้ากว่า 37 แห่ง ไฮไลต์คือจุดถ่ายรูปสุดอาร์ต เช่น โครงสร้างตัว S ขนาดใหญ่ (Shibu S) และพื้นที่จัดแสดงอีเวนต์หมุนเวียน เหมาะสำหรับนักช้อปและสายอัปเดตเทรนด์ เที่ยวญี่ปุ่น 2026

ภูมิภาคคันไซ (Kansai)
5. ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ เจแปน (Universal Studios Japan) - โอซาก้า
สวนสนุกระดับโลกที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก มาพร้อมธีมภาพยนตร์และโซน Super Nintendo World ไฮไลต์ปี 2026 คือโซน Donkey Kong Country และเครื่องเล่นใหม่ Mine Cart Madness USJ ที่จำลองการนั่งรถรางกระโดดข้ามรางเหมือนในวิดีโอเกมอย่างตื่นเต้น นอกจากนี้ USJ ยังจัดอีเวนต์ตามฤดูกาล เช่น Universal Cool Japan และ Halloween Horror Nights

6. ป่าไผ่อาราชิยามะ (Arashiyama Bamboo Grove) – เกียวโต
หนึ่งในทัศนียภาพทางธรรมชาติที่งดงามและมีเอกลักษณ์ที่สุดของเกียวโต เป็นทางเดินสายป่าไผ่ที่ทอดยาวทามกลางกอไผ่สูงเสียดฟ้า บรรยากาศสงบและร่มรื่น เสียงใบไผ่เสียดสีกันได้รับการยกย่องเป็น "100 เสียงแห่งญี่ปุ่น" ที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ สถานที่นี้เหมาะสำหรับถ่ายภาพและเดินเล่นเพื่อสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติ สถานที่นี้เที่ยวได้ตลอดปี แนะนำไปช่วงเช้าตรู่เพื่อหลีกเลี่ยงฝูงชนค่ะ

7. ปราสาทโอซาก้า ไนท์อิลลูมิเนชัน (Osaka Castle Night Illumination) – โอซาก้า
ปราสาทโอซาก้าที่ปรับไฟประดับรอบสวนใหม่ แสงไฟสะท้อนน้ำรอบปราสาทให้บรรยากาศโรแมนติก เหมาะกับคู่รักและนักถ่ายรูป แนะนำมาเที่ยวช่วงธันวาคม – กุมภาพันธ์

8. สวนกวางนารา (Nara Deer Park) – นารา
สวนสาธารณะขนาดใหญ่ เป็นที่อยู่ของกวางกว่า 1,200 ตัว ซึ่งถูกยกย่องเป็น ทูตสวรรค์ของเทพเจ้าตามความเชื่อของชินโต ไฮไลต์คือการป้อนขนมกวาง (Shika Senbei) ที่เป็นมิตรและอาจโค้งคำนับขออาหารจากนักท่องเที่ยวอีกด้วย ที่นี่อยู่ใกล้วัดโคฟุจิและวัดโทไดจิที่มีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ เหมาะกับคนชอบวัฒนธรรมโบราณและธรรมชาติ แนะนำเที่ยวช่วงตุลาคม – พฤศจิกายน เพราะอากาศเย็นสบายและถ้ามาช่วงนี้จะได้ชมใบไม้เปลี่ยนสีด้วยค่ะ

9. ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) – เฮียวโกะ
ปราสาทมรดกโลกที่ได้รับยกย่องว่างดงามที่สุดในญี่ปุ่น ด้วยรูปลักษณ์สีขาวราวกับนกกระยาง ทำให้ได้ฉายาว่า "ปราสาทนกกระยางขาว" ยังเป็นสถาปัตยกรรมดั้งเดิมที่ไม่ถูกสงครามทำลาย เหมาะกับ ทำให้ยังคงความสง่างามไว้ได้อย่างสมบูรณ์ และเป็นจุดหมายที่สำคัญสำหรับ เที่ยวญี่ปุ่น 2026 ความงามของปราสาทเปลี่ยนไปตามฤดูกาล โดยเฉพาะช่วงดอกซากุระและใบไม้เปลี่ยนสี สำหรับใครที่กำลังวางแผนมาเที่ยวปราสาทฮิเมจิ ในปี 2026 ควรตรวจสอบมาตรการ Dual Pricing (ราคาคู่) ล่วงหน้าก่อนการเดินทาง

ภูมิภาคชูบุ (Chubu)
10. จิบลิ พาร์ก (Ghibli Park) - ไอจิ
สวนสนุกธีมสตูดิโอจิบลิที่ตั้งอยู่ในจังหวัดไอจิ นำโลกจินตนาการมาสู่พื้นที่ธรรมชาติและยังคงมีการเปิดโซนใหม่เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ไฮไลต์คือโซน Valley of Witches ที่มีปราสาทเคลื่อนที่สูง 20 เมตรจาก Howl's Moving Castle และโซน Ghibli's Grand Warehouse ที่รวบรวมฉากถ่ายรูปไอคอนิก สถานที่นี้ตอบโจทย์แฟนๆ อนิเมะทั่วโลก ช่วงเวลาแนะนำคือ ฤดูใบไม้ผลิ และฤดูใบไม้ร่วง อากาศเย็นสบาย วิวสวย

11. ทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Lake Kawaguchiko) – ยามานาชิ
จุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิยอดนิยม มีเส้นทางเดินรอบทะเลสาบและจุดถ่ายภาพหลายมุม ไฮไลต์ปี 2026 คือมุมถ่ายรูปใหม่ๆ และคาเฟ่ริมทะเลสาบ เปิดให้บริการตลอดปี แนะนำมาเที่ยวช่วงฤดูใบไม้ผลิชมซากุระบาน หรือฤดูใบไม้เปลี่ยนสีก็สวยไม่แพ้กัน

12. หมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) – กิฟุ
หมู่บ้านหลังคาฟางสุดคลาสสิก รีโนเวตเส้นทางเดินและเพิ่มจุดชมวิวใหม่ มีโซนไฟประดับช่วงปีใหม่ปี 2026 ให้บรรยากาศเทพนิยาย เหมาะสำหรับสายถ่ายภาพและอยากสัมผัสวิถีชีวิตดั้งเดิม แนะนำเที่ยวช่วงมกราคม – กุมภาพันธ์ เพื่อชมหิมะและไฟประดับสวยงามอลังการ

13. เส้นทางเทือกเขาแอลป์ ทาเตยามะ คุโรเบะ (Tateyama Kurobe Alpine Route) – โทยามะ
เส้นทางชมวิวหิมะและภูเขาที่มีชื่อเสียงระดับโลก ไฮไลต์คือ ไฮไลต์คือการเดินผ่าน กำแพงหิมะ (Snow Wall) ที่สูงตระหง่าน ปี 2026 เพิ่มจุดชมวิว Snow Wall Panorama สำหรับทิวทัศน์หิมะและภูเขาสูงสุดตระการตา แนะนำช่วงเมษายน – มิถุนายน (ช่วงเปิดให้ชมกำแพงหิมะ)

14. อุทยานแห่งชาติคะมิโคจิ (Kamikochi National Park) – นากาโนะ
อุทยานแห่งชาติที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์และวิวเทือกเขาแอลป์สุดอลังการ ได้รับสมญานาม “สวิตเซอร์แลนด์แห่งญี่ปุ่น” มี สะพานคัปปะบาชิ (Kappa Bridge) เป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่ล้อมรอบด้วยแม่น้ำใสและป่าสน เหมาะสายเทรคกิ้งและถ่ายภาพ ช่วงเวลาที่แนะนำคือพฤษภาคม – ตุลาคม

15. ปราสาทมัตสึโมโตะ (Matsumoto Castle) – นากาโนะ
ปราสาทเก่าแก่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติแห่งชาติและเป็นหนึ่งในปราสาทดั้งเดิมไม่กี่แห่งที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ สีดำสนิทสวยสง่า มีชื่อเสียงจากรูปลักษณ์ภายนอกซึ่งเป็นอาคารสีดำสนิทสวยงามสง่า โอบล้อมด้วยคูน้ำและสวน ภายในมีประวัติศาสตร์ซามูไรให้เรียนรู้ และเป็นจุดถ่ายภาพตลอดปี โดยเฉพาะฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วง

ภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku)
16. ปีศาจหิมะ ภูเขาซะโอะ (Zao Snow Monsters) – ยามากาตะ
ภูเขาซะโอะเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "ปีศาจหิมะ" เนื่องจากต้นไม้จะถูกปกคลุมด้วยหิมะจนกลายเป็นรูปร่างแฟนตาซีแปลกตา ไฮไลต์คือการนั่งกระเช้าชมปรากฏการณ์ธรรมชาติสุดตระการตานี้ พร้อมเส้นทางสกีและจุดชมวิวใหม่ที่เปิดให้บริการ ช่วงเวลาแนะนำคือ ธันวาคม – กุมภาพันธ์ เพราะเป็นช่วงที่หิมะหนาแน่นที่สุดและมีกิจกรรมสกีให้เล่นอย่างสนุกสนาน

17. หมู่บ้านกินซันออนเซ็น (Ginzan Onsen Village) – ยามากาตะ
หมู่บ้านออนเซ็นริมแม่น้ำที่สวยงามราวกับภาพวาด ด้วยอาคารไม้สไตล์เรโทรสมัยไทโชที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ไฮไลต์คือบรรยากาศสุดโรแมนติกยามค่ำคืนเมื่อแสงไฟจากตะเกียงแก๊สส่องสะท้อนกับแม่น้ำและหิมะที่ปกคลุมในช่วงฤดูหนาว แนะนำให้มาช่วงเดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ ค่ะ

ภูมิภาคฮอกไกโด (Hokkaido)
18. ฟุราโนะ (Furano) – ฮอกไกโด
ฟุราโนะมีชื่อเสียงระดับโลกจากทุ่งดอกลาเวนเดอร์ขนาดใหญ่ ที่ตั้งของ Ningle Terrace (หมู่บ้านกระท่อมไม้ในป่า) และเป็นแหล่งผลิตไวน์และชีสคุณภาพดีที่ควรแวะชิม เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสความงามสงบของธรรมชาติและประสบการณ์ Slow Travel ช่วงเวลาแนะนำคือ มิถุนายน – กรกฎาคม เพราะเป็นช่วงที่ดอกลาเวนเดอร์บานเต็มทุ่งและอากาศดีที่สุด

19. บิเอะ (Biei) – ฮอกไกโด
เมืองชนบทที่ขึ้นชื่อด้านทัศนียภาพ "เนินเขาพาโนรามา" ที่มีฟาร์มเกษตรกรรมสลับซับซ้อนสวยงามเหมือนภาพวาด ไฮไลต์คือ สระน้ำสีฟ้า (Blue Pond) ที่มีสีฟ้าเทอร์ควอยซ์อันเป็นเอกลักษณ์ ช่วงเวลาแนะนำคือ เดือนมิถุนายน – กันยายน จะเป็นช่วงที่ทุ่งดอกไม้อุดมสมบูรณ์ และ ฤดูหนาว เพื่อมาชมสระน้ำสีฟ้าท่ามกลางหิมะ

20. คลองโอตารุ (Otaru Canal) – ฮอกไกโด
เมืองท่าบรรยากาศโรแมนติกที่โดดเด่นด้วยคลองสายประวัติศาสตร์และอาคารสไตล์ตะวันตกยุคเก่า ไฮไลต์คือการล่องเรือชมคลองยามค่ำคืนที่แสงตะเกียงส่องระยิบระยับ และถนนซาไคมัตจิที่เต็มไปด้วยร้านเครื่องแก้วและขนมดัง ที่นี่เที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงเทศกาลหิมะเดือนกุมภาพันธ์บรรยากาศจะโรแมนติกเป็นพิเศษ

มาตรการใหม่สำหรับการเที่ยวญี่ปุ่น 2026
ปี 2026 ถือเป็นปีแห่งการปรับตัวครั้งสำคัญของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวญี่ปุ่น เพื่อรับมือกับปัญหาจำนวนนักท่องเที่ยวล้นทะลัก และเพิ่มความยั่งยืนทางการท่องเที่ยว รวมถึงระบบ Dual Pricing ที่อาจทำให้ค่าใช้จ่ายเปลี่ยนไป ผู้ที่กำลังวางแผนเดินทางต้องอัปเดตกฎและแนวโน้มใหม่เหล่านี้ เพื่อให้ทริปของคุณคุ้มค่าและราบรื่นที่สุด
1. สิ้นสุด Tax-Free
นโยบายการช้อปปิ้งกำลังจะเปลี่ยนไป! ญี่ปุ่นมีแผนที่จะยกเลิกการซื้อสินค้าแบบปลอดภาษี (Tax-Free) ณ จุดขายที่ร้านค้า และเปลี่ยนไปใช้ระบบ Tax Refund (ขอคืนภาษี) แทน ซึ่งหมายความว่าคุณจะต้องจ่ายเต็มราคารวมภาษีที่ร้านค้าก่อน จากนั้นนำใบเสร็จและเอกสารที่เกี่ยวข้องไปทำเรื่องขอคืนภาษีที่จุดบริการในสนามบินก่อนเดินทางกลับ
ข้อแนะนำ: การเปลี่ยนระบบนี้จะทำให้คุณต้องเผื่อเวลาเพิ่มขึ้นที่สนามบินอย่างน้อย 30–60 นาทีเพื่อดำเนินการขอคืนภาษีให้ทันเวลา (คาดว่าจะเริ่มใช้มาตรการ Tax Refund ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2026 เป็นต้นไป)
2. ระบบราคาคู่ (Dual Pricing)
เพื่อนำรายได้ไปใช้ในการบำรุงรักษาสถานที่และพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในท้องถิ่น แหล่งท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่งเริ่มใช้มาตรการ ระบบราคาคู่ (Dual Pricing) โดยจะกำหนดค่าเข้าชมหรือบริการสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในอัตราที่สูงกว่าคนญี่ปุ่น ตัวอย่างเช่น สถานที่ยอดฮิตบางแห่ง เช่น ปราสาทฮิเมจิ อาจนำระบบนี้มาใช้อย่างชัดเจน
3.การจองล่วงหน้าและจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว
ปัญหาความแออัดนำไปสู่การจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวในพื้นที่ยอดนิยม และสถานที่สำคัญหลายแห่ง เช่น เส้นทางปีนเขาภูเขาไฟฟูจิ (Yoshida Trail) ได้เริ่มกำหนดจำนวนผู้เข้าชมต่อวันและบังคับให้ต้องลงทะเบียนล่วงหน้าอย่างเคร่งครัด, ย่าน กิออน (Gion) ในเกียวโต มีมาตรการห้ามนักท่องเที่ยวเข้าสู่ถนนบางซอย เพื่อป้องกันการละเมิดมารยาทและลดผลกระทบต่อชุมชนท้องถิ่น สำหรับผู้ที่วางแผน เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง หรือเดินทางกับ ทัวร์ญี่ปุ่น 2026 ต้องตรวจสอบและจองตั๋วเข้าชมหรือลงทะเบียนสำหรับสถานที่ยอดฮิตล่วงหน้าหลายเดือน เพื่อเป็นการรับประกันสิทธิ์ในการเข้าชมและทำให้ทริปไม่สะดุด
4. ค่าใช้จ่ายโดยรวมที่สูงขึ้น
แม้ว่าในปัจจุบันหลายคนจะมองว่าการท่องเที่ยวญี่ปุ่นคุ้มค่าขึ้นจากภาวะเงินเยนที่อ่อนตัวลง แต่ในความเป็นจริง ผู้ประกอบการญี่ปุ่นต้องเผชิญกับต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งราคานำเข้าวัตถุดิบและพลังงาน ทำให้ปรับขึ้นราคาบริการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ผลกระทบคือ ค่าใช้จ่ายโดยรวมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะค่าที่พักในเมืองท่องเที่ยวหลักอย่างโตเกียว เกียวโต และโอซาก้า รวมถึงค่าเข้าชมสถานที่และตั๋วบริการบางประเภทที่อาจปรับตามระบบราคาคู่และภาวะเงินเฟ้อที่สะสมมา
ข้อแนะนำ
- จองที่พักล่วงหน้า โดยเฉพาะในช่วง High Season (ซากุระ/ใบไม้เปลี่ยนสี) เพื่อให้ได้ราคาที่ดีที่สุด
- พิจารณาใช้บัตรโดยสารแบบคุ้มค่า เช่น JR Pass หรือ Regional Pass เพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
- หาที่พักนอกเมืองหลัก เช่น หากเที่ยวโอซาก้า ลองพักในเมืองใกล้เคียงอย่างนารา (Nara) หรือโกเบ (Kobe) ซึ่งมักมีราคาถูกกว่า
ทั้งหมดนี้คือข้อมูลที่ควรรู้ก่อน เที่ยวญี่ปุ่น 2026 สำหรับใครต้องการความสะดวกสบายในการท่องเที่ยวญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเส้นทางไหน การซื้อ ทัวร์ญี่ปุ่น กับบริษัททัวร์ก็เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะไม่ต้องวางแผน จัดการเอกสารต่างๆ ให้ยุ่งยาก
อย่ารอช้า เก็บกระเป๋าให้พร้อม แล้วไปเที่ยวญี่ปุ่นกับยักษ์ทัวร์กันเถอะ!
จองทัวร์กับยักษ์ทัวร์วันนี้ พร้อมโปรพิเศษ แอดมาเลยที่ Line @yaktour
Line Official Account | @yaktour 👉 https://lin.ee/NLwXWc1
ไม่พลาดเรื่องเที่ยว และดีลเด็ด ติดตามยักษ์ทัวร์ได้ทุกช่องทาง
Facebook | yaktourgroup 👉 https://shorturl.at/ov7AJ
Instagram | @yaktour_th 👉 https://shorturl.at/2uS64
TikTok | @yaktourgroup 👉 https://shorturl.at/DMF90
Youtube | @yaktour 👉 https://shorturl.at/VFWok
